หน่วยที่ 1 ทำความรู้จักกับ PHP
PHP เป็นภาษาจา พวก scripting language คำ สั่งต่างๆจะเก็บอยู่ในไฟล์ที่เรียกว่าสคริปต์ (script) และเวลาใช้งานต้องอาศัยตัวแปลชุดคำ สั่ง ตัวอย่างของภาษาสคริปก็เช่น JavaScript, Perl เป็นต้น ลักษณะของ PHP ที่แตกต่างจากภาษาสคริปต์แบบอื่นๆ คือ PHP ได้รับการพัฒนาและออกแบบมา เพื่อใช้งานในการสร้างเอกสารแบบ HTML โดยสามารถ สอดแทรกหรือแก้ไขเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงกล่าวว่า PHP เป็นภาษาที่เรียกว่าserver-side หรือ HTML-embedded scripting language เป็นเครื่องมือที่สำคัญชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างเอกสารแบบ Dynamic HTML ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีลูกเล่นมากขึ้น
ประวัติความเป็นมา
ผู้ให้กำเนิด PHP มีชื่อว่า Rasmus Lerdorf โดยเริ่มต้นเขียนสคริปต์ Perl CGI ใส่ไว้ในโฮมเพจประวัติส่วนตัว และเห็นว่าการเขียน CGI ด้วย Perl มีความยุ่งยาก จึงได้เขียนโปรแกรมขึ้นใหม่ด้วยภาษา C ที่สามารถแยกส่วนที่เป็นภาษา HTML ออกจากส่วนที่เป็นภาษา C เพื่อแยกประมวลผล แล้วทำการสร้างโค้ด HTML ขึ้นใหม่ โดยตั้งชื่อโปรแกรมนี้ว่า Personal Home Page Tools (PHP-Tools) และได้เริ่มแจกจ่ายโค้ดออกไปในลักษณะฟรีแวร์ ต่อมาจึงได้เริ่มเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมปรับปรุงและพัฒนา จนพัฒนาเป็น PHP/FI
ปัจจุบัน PHP ย่อมาจาก PHP: Hypertext Preprocessor
PHP เป็นภาษาสคริปต์แบบเซิร์ฟเวอร์ไซด์ (Server-side scripting language) หมายถึง การประมวลผลจะเกิดขึ้นบนเครื่องแม่ข่าย (Server) แล้วสร้างผลลัพธ์เป็นภาษา HTML ส่งให้กับเครื่องลูกข่าย (Client) เพื่อแสดงผล ซึ่งลดภาระการส่งถ่ายข้อมูลจำนวนมากเพื่อมาประมวลผลบนเครื่องลูกข่าย การเขียนสามารถทำได้โดยการเขียนโค้ด PHP แทรกลงในโค้ด HTML ด้วยการเปิดแท็ก <?php และปิดด้วยแท็ก ?> การบันทึกจะต้องกำหนดเป็นนามสกุล .php
ตัวอย่าง AppServ เวอร์ชั่น 2.6.0 ประกอบด้วย
การเรียกใช้งาน
การทดสอบการทำงานของไฟล์ PHP
โครงสร้างภาษา PHP
เนื่องจากภาษา PHP มีลักษณะเป็น Embedded Script หมายถึง เราสามารถฝังคำสั่ง PHP ไว้ในเว็บเพจร่วมกับคำสั่ง(Tag) ของ HTML ได้ และสร้างไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .php ซึ่งไวยากรณ์ที่ใช้ใน PHP เป็นการนำรูปแบบของภาษาต่างๆ มารวมกัน ได้แก่ C, Perl และ Java ทำให้ผู้ใช้ที่มีพื้นฐานของภาษาเหล่านี้อยู่แล้วสามารถศึกษาและใช้งานภาษานี้ได้ไม่ยากนัก
การประกาศ Tag ใน PHP
เนื่องจาก PHP เป็นภาษาแบบ Server-Side Script (ภาษาที่ประมวลผลฝั่ง Server แล้วส่งผลลัพธ์ไปฝั่ง Client ผ่าน Web Browser) ซึ่งมีรูปแบบที่จะใช้ในการเขียน PHP ได้ดังนี้
รูปแบบ
ตัวอย่าง
ผลที่ได้จากการแปลคำสั่ง
แบบมาตรฐาน
<?php … ?>
<?php
echo “This is PHP”;
?>
This is PHP
แบบสั้น
<? … ?>
<?
echo “This is PHP”;
?>
แบบ Script
<script language=“php”>
…….
</script>
<script language=“php”>
echo“This is PHP”;
</script>
แบบ ASP Tag
<% … %>
<%
echo“This is PHP”;
%>
PHP เป็นภาษาจา พวก scripting language คำ สั่งต่างๆจะเก็บอยู่ในไฟล์ที่เรียกว่าสคริปต์ (script) และเวลาใช้งานต้องอาศัยตัวแปลชุดคำ สั่ง ตัวอย่างของภาษาสคริปก็เช่น JavaScript, Perl เป็นต้น ลักษณะของ PHP ที่แตกต่างจากภาษาสคริปต์แบบอื่นๆ คือ PHP ได้รับการพัฒนาและออกแบบมา เพื่อใช้งานในการสร้างเอกสารแบบ HTML โดยสามารถ สอดแทรกหรือแก้ไขเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงกล่าวว่า PHP เป็นภาษาที่เรียกว่าserver-side หรือ HTML-embedded scripting language เป็นเครื่องมือที่สำคัญชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างเอกสารแบบ Dynamic HTML ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีลูกเล่นมากขึ้น
ประวัติความเป็นมา
ผู้ให้กำเนิด PHP มีชื่อว่า Rasmus Lerdorf โดยเริ่มต้นเขียนสคริปต์ Perl CGI ใส่ไว้ในโฮมเพจประวัติส่วนตัว และเห็นว่าการเขียน CGI ด้วย Perl มีความยุ่งยาก จึงได้เขียนโปรแกรมขึ้นใหม่ด้วยภาษา C ที่สามารถแยกส่วนที่เป็นภาษา HTML ออกจากส่วนที่เป็นภาษา C เพื่อแยกประมวลผล แล้วทำการสร้างโค้ด HTML ขึ้นใหม่ โดยตั้งชื่อโปรแกรมนี้ว่า Personal Home Page Tools (PHP-Tools) และได้เริ่มแจกจ่ายโค้ดออกไปในลักษณะฟรีแวร์ ต่อมาจึงได้เริ่มเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมปรับปรุงและพัฒนา จนพัฒนาเป็น PHP/FI
ปัจจุบัน PHP ย่อมาจาก PHP: Hypertext Preprocessor
PHP เป็นภาษาสคริปต์แบบเซิร์ฟเวอร์ไซด์ (Server-side scripting language) หมายถึง การประมวลผลจะเกิดขึ้นบนเครื่องแม่ข่าย (Server) แล้วสร้างผลลัพธ์เป็นภาษา HTML ส่งให้กับเครื่องลูกข่าย (Client) เพื่อแสดงผล ซึ่งลดภาระการส่งถ่ายข้อมูลจำนวนมากเพื่อมาประมวลผลบนเครื่องลูกข่าย การเขียนสามารถทำได้โดยการเขียนโค้ด PHP แทรกลงในโค้ด HTML ด้วยการเปิดแท็ก <?php และปิดด้วยแท็ก ?> การบันทึกจะต้องกำหนดเป็นนามสกุล .php
- ลักษณะเด่นของ PHP
1. ใช้ได้ฟรี และใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการ
2. PHP เป็นโปรแกรมวิ่งข้าง Server
3. เรียนรู้ง่าย เนื่องจาก PHP ฝังเข้าไปใน HTML และใช้โครงสร้างและไวยากรณ์ภาษาง่ายๆ
4. เร็วและมีประสิทธิภาพ
5. ใช้ร่วมกับ XML ได้ทันที
6. ใช้กับระบบแฟ้มข้อมูลได้
7. ใช้กับโครงสร้างข้อมูลใช้ได้แบบ Scalar,Array,Associative array
- ถ้าต้องการใช้ PHP ต้องมีอะไรบ้าง
- เครื่องแม่ข่าย (หากไม่มีจะต้องจำลองเครื่องแม่ข่าย :: เช่น โปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache หรือชุดสำเร็จ อย่างเช่น Appserv ประกอบไปด้วย Apache, PHP, MySQL และ PHPMyAdmin เป็นต้น)
- เครื่องลูกข่าย ต้องมีเว็บบราวเซอร์ (Web Browser)
เช่น IE
หรือ FireFox เป็นต้น
- ทำงานบน Server
- ทำงานร่วมกับเอกสาร HTML
- สามารถแทรกคำสั่ง PHP ได้ตามที่ต้องการลงในเอกสาร HTML
- ทำงานในส่วนที่เป็นคำสั่งของ PHP
ก่อน เมื่อมีการเรียกใช้เอกสารนั้น ๆ
- แสดงผลออกทาง Web Browsers
- Web server เครื่องบริการเว็บ (ถ้าไม่มีเครื่องเซอร์ฟเวอร์ให้ใช้วิธีการจำลองเครื่องพีซีให้เป็นเซอร์ฟเวอร์
โดยใช้โปรแกรม Apache )
- Web browser โปรแกรมเรียกดูเอกสารเว็บ เช่น Internet Explorer, Google chrome เป็นต้น
- ภาษา HTML และภาษา Script เช่น PHP script language and compiler
- Database ฐานข้อมูล เช่น My SQL
- Database Manager
โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล เช่น PHP My Admin
- Text Editor โปรแกรมที่ใช้สำหรับเขียน Script PHP เช่น Notepad,
Edit plus, Dreamweaver
ตัวอย่าง AppServ เวอร์ชั่น 2.6.0 ประกอบด้วย
- Apache 2.2.8
- PHP 6.0.0-dev
- MySQL
6.0.4-alpha
- phpMyAdmin-2.10.3
สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.appservnetwork.com/
การเรียกใช้งาน
- เปิดโปรแกรม Web Browser
- พิมพ์ URL Address
- http://localhost/ (
หรือ http://127.0.0.1/ )
การทดสอบการทำงานของไฟล์ PHP
- http://localhost/ชื่อโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ PHP / ชื่อไฟล์.php
โครงสร้างภาษา PHP
เนื่องจากภาษา PHP มีลักษณะเป็น Embedded Script หมายถึง เราสามารถฝังคำสั่ง PHP ไว้ในเว็บเพจร่วมกับคำสั่ง(Tag) ของ HTML ได้ และสร้างไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .php ซึ่งไวยากรณ์ที่ใช้ใน PHP เป็นการนำรูปแบบของภาษาต่างๆ มารวมกัน ได้แก่ C, Perl และ Java ทำให้ผู้ใช้ที่มีพื้นฐานของภาษาเหล่านี้อยู่แล้วสามารถศึกษาและใช้งานภาษานี้ได้ไม่ยากนัก
การประกาศ Tag ใน PHP
เนื่องจาก PHP เป็นภาษาแบบ Server-Side Script (ภาษาที่ประมวลผลฝั่ง Server แล้วส่งผลลัพธ์ไปฝั่ง Client ผ่าน Web Browser) ซึ่งมีรูปแบบที่จะใช้ในการเขียน PHP ได้ดังนี้
รูปแบบ
ตัวอย่าง
ผลที่ได้จากการแปลคำสั่ง
แบบมาตรฐาน
<?php … ?>
<?php
echo “This is PHP”;
?>
This is PHP
แบบสั้น
<? … ?>
<?
echo “This is PHP”;
?>
แบบ Script
<script language=“php”>
…….
</script>
<script language=“php”>
echo“This is PHP”;
</script>
แบบ ASP Tag
<% … %>
<%
echo“This is PHP”;
%>